โรคราน้ำค้าง : DOWNY MILDEW DISEASE

Bootstrap template

เชื้อสาเหตุ : รา Peronospora parasitica (Pers. Ex.Fr.) Fr.

ชีววิทยาของเชื้อ : ราสร้างเส้นใยแบบไม่มีผนังกั้นตามขวาง ก้านชูสปอร์ยาวตรง แตกกิ่งก้านเป็น มุมแหลมคล้ายต้นไม้ ปลายสุดของกิ่งก้านมีลักษณะบางเรียวเล็ก สปอร์เป็นรูปไข่ หรือกลมใส ไม่มีสี ติดอยู่ตรง ปลายสุดของก้านชูสปอร์ สปอร์งอกเป็นเส้นใย

ลักษณะอาการ : โรคสามารถแสดงอาการได้ทุกระยะการเจริญของพืช ในระยะกล้า ใบเลี้ยงเกิดเป็น จุดช้ำสีน้ำตาลหรือดำ ลำต้นเน่า ยุบตัว ทำให้พืชตายหรือแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต ในระยะต้นโตอาการระยะ แรกมักเกิดจุดสีเหลืองเป็นหย่อมๆ หรือเป็นปื้นเหลืองด้านหน้าใบ มีเส้นใยสีขาวหรือเทาคล้ายปุยฝ้ายด้าน หลังใบ แต่ในสภาพอากาศแห้งมักจะพบแต่อาการเหลืองซีดเท่านั้น เมื่อเกิดการระบาดรุนแรง แผลขยาย ขนาดใหญ่มากขึ้น เนื้อใบกลายเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล และแห้งตาย ในกะหล่ำดอกและบร๊อคโคลี่ ถ้าเชื้อ เข้าทำลายในระยะสร้างดอก จะเกิดเป็นจุดดำเล็กๆ บนช่อดอก หากอาการรุนแรงดอกอาจยืดหรือบิดเบี้ยวเสีย รูปทรง ในกะหล่ำปลีเกิดแผลเป็นจุดเล็กๆ บนใบ ไม่ค่อยขยายขนาด

การแพร่ระบาด : ราแพร่กระจายไปกับลม น้ำฝนหรือน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก อาการของโรคพบได้ทั่วไป สภาวะอุณหภูมิต่ำและความชื้นสูง หมอกหรือน้ำค้างลงจัด เป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเกิดโรคและการระบาด เชื้อราอยู่ข้ามฤดูปลูกโดยสร้างสปอร์ผนังหนา ซึ่งติดอยู่ตามเศษซากพืช วัชพืชหรืออาศัยกับต้นที่งอกเองนอกฤดู และสามารถติดไปกับเมล็ดพันธุ์ได้

การป้องกันกำจัด :

1. ใช้เมล็ดพันธุ์ปราศจากเชื้อ หรือแช่เมล็ดในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที ก่อนปลูก หรือคลุกเมล็ดด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เมทาแลกซิล หรือ เมทาแลกซิล+แมนโคเซบ

2. ควรปลูกพืชให้มีระยะห่างพอสมควร ไม่เบียดแน่นจนเกินไป

3. หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต ควรเก็บทำลายเศษซากพืชออกจากบริเวณแปลงปลูก

4. ควรหลีกเลี่ยงการปลูกซ้ำในแปลงที่เคยมีการระบาด และควรปลูกพืชหมุนเวียน

5. เมื่อพบอาการของโรคในแปลง ควรฉีดพ่นด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น เมทาแลกซิล แมนโคเซบ เมทาแลกซิล+แมนโคเซบ ไซมอกซามิล+แมนโคเซบ ออกซาไดซิล+แมนโคเซบ โพรพิเนบ+ ไซมอกซามิล คลอโรทาโลนิล หรือยาอื่นๆ ที่มีสารทองแดงเป็นองค์ประกอบ และหากใช้สารประกอบทองแดง ในระยะกล้า ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เพราะเป็นพิษต่อกล้า